ในโลกของชาวพุทธ คนมีความเชื่อว่าการทำบุญจะทำให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้น ตัวอย่างเช่นการบริจาคเงินทองในชาตินี้ จะทำให้เขาเกิดมารวยในชาติหน้า ซึ่งก็อาจจะเป็นจริงได้ แต่ในอีกมิติหนึ่ง เราอาจทำความเข้าใจเรื่องการทำบุญได้ลึกซึ้งไปกว่านั้นอีก โดยทั่วไป คนย่อมได้รับผลจากการกระทำของตัวเองกลับคืนมา ถ้าไม่ใช่ผลที่มองเห็นได้แบบทั่วๆไป ก็ในแบบที่สูงขึ้นไปอีก ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ ถ้าเราใจดีกับใคร คนๆนั้นก็น่าจะใจดีกับเราเช่นกัน แต่ถ้ามันกลับไม่เป็นเช่นนั้นล่ะ ก็ถือว่าเป็นโชคที่ได้สละของนอกกาย ซึ่งจะส่งผลในทางบวกให้กับการเดินไปบนเส้นทางของการหลุดพ้น บางทีโชคแบบนี้อาจจะดีไปกว่า การร่ำรวยด้วยทรัพย์สินเงินทองด้วยซ้ำไป
พระพุทธเจ้าทรงฉลาดที่จะไม่สอนเรื่องนี้ตรงๆ ท่านให้เราค้นพบด้วยตนเอง บางครั้งคนบางคน ยอมสละทุกอย่างเพื่อความมั่งคั่งแต่กลับไม่ได้อะไรตอบแทนกลับมา เพียงเพื่อพบว่า "การไม่มีอะไร" เป็นลาภอันประเสริฐ เพราะมันทำให้เกิดแรงบันดาลใจที่จะค้นหาความจริงที่สูงสุดและจุดหมายที่มีค่ายิ่ง อาตมาขอเสนอธรรมะนี้เพื่อการเรียนรู้และพิจารณา อาจารย์กัลยาโณ ติดตามคำสอนเพิ่มเติมที่แปลเป็นไทยแล้วได้ที่นี่: www.openthesky.co.uk/thai เหมันต์ปี 2555 อากาศค่อนข้างหนาวทีเดียวสำหรับการเจริญกรรมฐาน อาตมาใช้เวลาส่วนใหญ่นั่งสมาธิและออกกำลังกายเพื่อให้มีเรี่ยวแรงปฏิบัติธรรมต่อไป วันหนึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ปีเดียวกัน อาตมาทราบว่ามีญาติโยมนำศพมาไว้ที่วัดเพื่อรอประกอบ ศาสนพิธี อาตมาจึงปฏิบัติสิ่งที่ทำเป็นประจำคือการแผ่เมตตาให้ร่างไร้วิญญาณ วันนั้นอาตมาพบว่ารู้จักผู้ตายมาก่อน เราเคยพบกัน 2-3 ครั้ง เขาได้ชื่อว่าเป็นบุคคลที่คลั่งไคล้การออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพ ภาพถ่ายของเขามักปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นอยู่เสมอ ในฐานะเป็นผู้ทุ่มเทให้กับกิจกรรมการกุศลอย่างสุดโต่ง แต่หลังจากเขาเสียชีวิตมีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นเช่น ก่อนนำร่างของเขามาที่วัดพระพุทธรูปภายในห้องตั้งหีบศพหล่นลงมาแตกหัก อาตมาทราบมาว่าเขาเผชิญกับอาการทางระบบประสาทที่น่าตกใจและจากโลกนี้ไปอย่างทุกข์ทรมาน อาตมาจึงเกิดความสงสัยว่า เป็นไปได้หรือไม่สิ่งที่เขาประสบก่อนเสียชีวิตทำให้เขาหมดความศรัทธาในเป้าหมายที่มุ่งมั่น จึงแสดงออกให้ทุกคนรับรู้หลังจากโลกนี้ไปด้วยวิธีต่างๆ อาตมากลับไปยังกุฏิกลางป่าเพื่อบำเพ็ญสมาธิภาวนาด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง เมื่อพิจารณาถึงการออกกำลังกายของตัวเองและผู้ตาย อาตมาถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมรำพึงออกมาว่า "เราจะทำไปเพื่ออะไร" แต่อาจเป็นเพราะอานิสงส์ของการปฏิบัติธรรม รวมทั้งพิจารณาสังขารและเจริญมรณสติในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา อาตมาจึงรู้สึกขบขันกับความคิดของตัวเอง ทันใดนั้นคลื่นแห่งปีติได้แผ่กระจายไปทั่วจิต ความสุขและแสงสว่างอาบทั้งร่างอย่างเหลือเชื่อ ราว 2-3 นาทีถัดมา ภาพของพระอาจารย์อนันต์ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ของอาตมาปรากฏขึ้นอย่างแจ่มชัดพร้อมยิ้มกว้าง เป็นไปได้หรือไม่ที่ท่านแสดงให้อาตมาเห็นว่า "ท่านเองก็รู้สึกเช่นนี้อยู่ตลอดเวลา" สองปีต่อมา อาตมาเดินทางไปเมืองไทยจึงมีโอกาสถามพระอาจารย์อนันต์เกี่ยวกับประสบการณ์ดังกล่าว อาตมาอยากทราบว่าท่านรู้สึกเช่นนั้นอยู่ตลอดเวลาจริงหรือไม่ เมื่อท่านตอบว่า "ใช่" จึงทำให้อาตมาแปลกใจมาก ท่านก้มลงมองลึกเข้าไปในจักษุของอาตมาพลางพูดว่า "กัลยาโณ นั่นเป็นนิมิตหมายที่ดีที่สุดแล้ว" นับแต่จุดนั้นเป็นต้นมา อาตมาหวนรำลึกถึงเหตุการณ์นี้อยู่เสมอ เพราะสิ่งที่อาตมาเพียรกระทำอยู่เป็นเรื่องยาก ต้องอาศัยกำลังใจจากทุกแห่งหนเท่าที่พอหาได้ อาตมาขอเสนอธรรมะนี้เพื่อการเรียนรู้และพิจารณา Aj. Kalyano 20 มีนาคม 2557 ติดตามคำสอนเพิ่มเติมที่แปลเป็นไทยแล้วได้ที่นี่: www.openthesky.co.uk/thai |
พระอาจารย์กัลยาโณ Categories
All
|